6 ความเชื่อผิดๆ ที่คนรักต้นไม้ อาจยังไม่รู้

เปลี่ยนกระถางทันทีหลังซื้อ

หลายคนซื้อต้นไม้มาใหม่แล้วมีความรู้สึกว่ากระถางสีดำที่ซื้อมาจากร้านต้นไม้นี่ไม่สวยเอาซะเลย เลยอยากเปลี่ยน หยุด! แม้เราจะสั่งส้มให้หยุดไม่ได้แบบแม่สิตางค์ เพื่อนขอให้หยุด เพราะการที่เราซื้อน้องต้นไม้แล้วย้ายมาอยู่ในห้องเราเนี่ย น้องจะเจอกับ 2 ช็อค

ช็อคที่ 1. ปริมาณแสงแดด ที่ส่วนใหญ่ในห้องจะมืดมัวกว่าที่สวน และ

ช็อคที่ 2. ความชื้น ก็ชีวิตในห้องในตึกอะเนอะ ความชื้นจะลดลงไปมากกว่าอยู่ที่สวนมาก อาการตอบสนองของต้นไม้คือทิ้งใบ โดยเฉพาะไทรใบสัก ทิ้งเก่ง ทิ้งไม่หยุด

เพราะฉะนั้นถ้าเรายิ่งไปเปลี่ยนกระถางเลยทันทีน้องจะเกิดช็อคที่ 3 คือรู้สึกผิดที่ผิดทางไปหมด ดังนั้น ปล่อยให้น้องปรับตัวกับสภาพแวดล้อมที่เปลี่ยนไปก่อน สังเกตุง่ายๆ ถ้าน้องเริ่มแตกใบ มีรากทะลุออกมาจากกระถางแล้วเราค่อยเปลี่ยน ระหว่างนี้อยากได้กระถางสวยๆก็ซื้อมาสวมทับไปก่อน

ต้นไม้ช่วยฟอกอากาศได้

หูยเรื่องนี้ต้องขยายนะ คือช่วงนี้หลายคนจะเห็นว่ามีคอนเทนท์ประเภท ชวนปลูกต้นไม้ช่วยฟอกอากาศในห้องนอน ต้นนั้นก็ฟอกอากาศดี ต้นนี้ก็ลดสารพิษได้ งานวิจัย NASA ยืนยันชัดเจน ฟังดูดีใช่มะ

แต่ความจริงก็คือบ้าน คอนโด หรืออพาร์ทเมนท์ที่เราอาศัยอยู่เนี่ย มันไม่ได้เป็นระบบปิดแบบ 100% เหมือนสภาวะที่ NASA ใช้ทดลอง ถึงแม้ว่าจะเป็นเรื่องจริงที่ต้นไม้หลายต้นจะช่วยฟอกอากาศและลดสารพิษได้ แต่ล่าสุดคือเราต้องปลูกต้นไม้ขนาดกลางเป็นร้อยๆต้นเพื่อฟอกอากาศในห้องขนาด 30 ตรม. อะ

ปล่อยน้องไปเถอะ สงสารน้อง น้องไม่ใช่เครื่องฟอกอากาศ ให้น้องช่วยดูแลจิตใจ ให้ความสวยงามดีกว่า อยากได้อากาศดี นู่นไปซื้อเครื่องฟอกอากาศไป๊

ฉีดน้ำช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้น้อง

เข้าใจว่าหลายคนอยากรับบทแม่นม รับบทพี่เลี้ยงแหละ ฉีดน้ำให้น้องต้นไม้สุดรักเช้าเย็น โดยเฉพาะพวกเฟิร์นใช่มะ เพราะคิดว่าจะช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้ใบและดินถูกมะ แต่ขอบอกไว้ตรงนี้เลยว่าการฉีดน้ำไม่ได้ช่วยอะไรเลย

เพราะหลังฉีดอากาศรอบๆ อาจจะชื้นขึ้นจริง แต่ก็ชื้นอยู่ได้ไม่ถึง 5 นาที แถมการทำให้ดินชื้นอยู่ตลอดยังเพิ่มโอกาสเสี่ยงให้มีเชื้อราที่อาจทำให้รากหรือใบเน่าได้ด้วยนะ อ้าวแล้วทำไงถ้าซื้อพวกเฟิร์นหรือต้นคล้ามาปลูกในห้องแอร์แล้วน้องต้องการความชื้น มีทางเลือกคือเอาน้องวางไว้ข้างเครื่องทำความชื้น (Humidifier) หรือ ปล่อยน้องไป น้องอยู่ในห้องไม่ได้แสดงว่าเค้าก็ไม่ใช่เนื้อคู่เรา เศร้า ฮือออ

ย้ายต้นไม้ไปปลูกในกระถางใหญ่จะได้โตเร็วๆ

สืบเนื่องจากข้อก่อนหน้าที่เพื่อนบอกไปว่าการเปลี่ยนกระถางจะทำให้น้องช็อค ดังนั้นใครที่ซื้อต้นไม้กระถางเล็กๆมาแล้วรู้สึกแทนน้องไปเองว่ากลัวลูกจะอึดอัดในกระถางคับแคบ เลยจัดแจงเปลี่ยนไปใช้กระถางใหญ่

ทางนี้บอกเลยนะว่ามีโอกาสสูงมากที่ต้นไม้จะไม่รอดหลังเปลี่ยนกระถาง เพราะต้นไม้ที่ปลูกมาในกระถางเล็กจะมีรากเต็มสุดก็เท่ากระถางที่เราเห็นน่ะ ซึ่งน้องก็อยู่ได้ น้อง Can

แต่การที่เราไปย้ายเค้าไปลงกระถางที่ใหญ่กว่าเดิมมากๆ เช่น 4 cm ไป 24 cm แบบนี้ พอเวลาเรารดน้ำไป ระบบรากไม่สามารถจะดูดซึมน้ำที่มีอยู่ในดินได้ทั้งหมด จึงเหมือนรากแช่อยู่ในน้ำ ซึ่งจุดนี้โอกาสรากเน่าสูงมาก

ดังนั้นปล่อยน้องให้อยู่ในกระถางนั้นไปก่อน เอาให้น้องรากแน่นจนทะลุแล้วค่อยเปลี่ยนไปใช้กระถางที่ใหญ่กว่า ค่อยๆอัพไซส์ขึ้นเรื่อยๆ หรือบางต้นอาจจะไม่ต้องเปลี่ยนเลยก็ได้ตลอดเวลาที่น้องอยู่กับเรา

วางต้นไม้ไว้มุมไหนของห้องก็ได้

เวลาเราไปร้านต้นไม้คนขายก็จะบอกเราว่าต้นนี้ชอบแสง ต้นนี้อยู่แดดรำไรได้ แต่คำว่ารำไรของแต่ละคนเนี่ยไม่เท่ากัน เพราะต้นไม้ใช้แสงแดดในการสังเคราะห์แสง น้องต้องการโฟตอน (Photon) มากระทบใบของน้องนะ แม้แต่ต้นที่ต้องการแสงน้อยสุดอย่าง กวักมรกต หรือ ลิ้นมังกรก็ต้องการแสง

เราเห็นหลายคนลงรูปห้องที่วางต้นไทรใบสักไว้ห่างจากหน้าต่างมากๆ แล้วรับรู้ชะตากรรมของน้องไทรได้เลย คำแนะนำคือ ต้นไม้ควรอยู่ไม่ไกลเกิน 2.5-3 เมตรจากหน้าต่าง

ถ้าห้องเธอหน้าต่างหันไปทางทิศเหนืออาจจะต้องระยะสั้นลงกว่านี้ ถ้าไกลกว่า 3 เมตรบางต้นเช่นกวักมรกตอาจจะยังอยู่ได้แต่น้องอาจจะไม่โต ส่วนยางอินเดีย หรือไทรใบสักก็ไม่ต้องพูดถึงนะ ทิ้งใบรัวๆแน่นอน

แต่บางต้นอย่างตระกูลฟิโรเดนดรอนหรือมอนสเตร่า อยู่ติดหน้าต่างเลยอาจจะทำให้ใบไหม้ได้ โดยเฉพาะหน้าต่างฝั่งตะวันตก ที่พูดถึงทำน้องใบไหม้มาแล้วเหมือนกัน 555 เพราะฉะนั้น ดูพื้นที่ที่เรามีก่อนไปซื้อน้องมาไว้บ้านนะ

ปลูกต้นไม้ในห้องแย่งอากาศหายใจตอนกลางคืน

นี่เป็นคำถามที่เราโดนถามเยอะมากตอนซื้อต้นไม้มาปลูกในห้องใหม่ๆ เพราะตามที่เราเรียนมาในวิชา สปช. คือต้นไม้ดูดซับคาร์บอนไดออกไซด์ตอนกลางวัน แต่คลายก๊าซนั้นตอนกลางคืน ซึ่งมันคือเรื่องจริง

แต่ในความเป็นจริงห้องนอนเราไม่ได้เป็นระบบปิด 100% และต้นไม้ต้นนึงก็ไม่ได้ปล่อย CO2 เยอะขนาดนั้น

คนที่นอนข้างๆเธอน่ะ ปล่อยเยอะกว่าอีก เพราะฉะนั้นเลิกโทษน้องต้นไม้กันนะ แล้วถ้าอยากลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ในห้องนอนเนี่ย ก็นอนคนเดียวไปนะ เป็นโสดไป แบบเราเนี่ย เราเป็นโสดเพราะเราหวงอ๊อกซิเจน ไม่ใช่ไรเลย